xs
xsm
sm
md
lg

JPMorgan ปฏิวัติการเงิน! เปิดตัว JPMD โทเคนเงินฝากบน Base ของ Coinbase

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ธนาคารยักษ์ใหญ่ JPMorgan ทิ้งหมัดเด็ด! เปิดตัวโทเคนเงินฝาก JPMD บนบล็อกเชน Base ของ Coinbase นับเป็นครั้งแรกที่ธนาคารพาณิชย์สหรัฐฯ นำเงินฝากสู่บล็อกเชนสาธารณะ หวังแย่งชิงเค้กจากสเตเบิลคอยน์ด้วยธุรกรรมที่เร็วและถูกกว่า นี่คือก้าวสู่ยุคการเงินดิจิทัล หรือแค่การยึดครองโลกคริปโตโดยยักษ์ใหญ่?

JPMorgan กระโจนสู่โลกคริปโต!

วงการการเงินโลกกลับมาถูกพูดถึงอีกครั้งเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2568 JPMorgan Chase ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ ด้วยสินทรัพย์กว่า 4 ล้านล้านดอลลาร์ ประกาศเปิดตัว JPMD โทเคนเงินฝาก (deposit token) บนบล็อกเชน Base ซึ่งเป็นเลเยอร์-2 ของ Ethereum ที่พัฒนาโดย Coinbase ซึ่งกลายเป็นครั้งแรกที่ธนาคารพาณิชย์นำเงินฝากของลูกค้ามาอยู่บนบล็อกเชนสาธารณะ สร้างแรงสั่นสะเทือนให้ทั้งวงการคริปโตและการเงินดั้งเดิม

เนวีน มัลเลลา ผู้บริหารระดับโลกที่บริหารหน่วยงานบล็อกเชน Kinexys ของ JPMorgan เผยว่า ภายในไม่กี่วัน ธนาคารจะโอน JPMD จำนวนหนึ่งไปยังกระเป๋าดิจิทัลของ Coinbase เพื่อเริ่มโปรแกรมทดลอง (pilot program) ที่มุ่งเป้าไปยังลูกค้าสถาบัน ซึ่งโทเคนนี้จะเป็นตัวแทนของเงินฝากดอลลาร์สหรัฐในบัญชีธนาคาร และออกแบบมาเพื่อให้ธุรกรรมเร็วขึ้น ถูกกว่า และปลอดภัยยิ่งกว่าวิธีดั้งเดิม

JPMorgan ลั่น! JPMD ไม่ใช่สเตเบิลคอยน์ แต่ดีกว่า?

มัลเลลา กล่าวว่า "อย่าเรียก JPMD ว่าเป็นสเตเบิลคอยน์ เพราะ JPMD เป็น โทเคนเงินฝากที่เหนือกว่า เพราะผูกกับเงินฝากจริงในธนาคารที่ได้รับการควบคุม ไม่ใช่สำรองเงินไว้นอกระบบเหมือนสเตเบิลคอยน์ทั่วไปอย่าง USDT หรือ USDC"

นอกจากนี้ มัลเลลา กล่าวว่าความแตกต่างนี้ทำให้ JPMD มีศักยภาพในการจ่ายดอกเบี้ยในอนาคต และอาจได้รับการคุ้มครองโดย ประกันเงินฝากซึ่งสเตเบิลคอยน์ไม่มี นอกจากนี้ การทำงานภายในระบบธนาคารแบบ fractional-reserve ทำให้ JPMD สามารถขยายขนาดได้มากกว่า
ขณะเดียวกัน JPMD จะเริ่มให้บริการผ่านระบบที่จำกัดเฉพาะลูกค้าสถาบันที่ได้รับอนุญาต (permissioned system) โดยในช่วงทดลองนี้ ลูกค้าสถาบันของ Coinbase จะใช้ JPMD ในการทำธุรกรรมบนบล็อกเชน เช่น การชำระเงินข้ามพรมแดนและการเคลียร์สินทรัพย์ดิจิทัล หากการทดลองสำเร็จและได้รับไฟเขียวจากหน่วยงานกำกับดูแล JPMorgan วางแผนขยายการเข้าถึงไปยังลูกค้ากลุ่มอื่นและเพิ่มสกุลเงินอื่น ๆ

Base พื้นที่แข่งดุ-สนามรบใหม่ของ JPMorgan

ทั้งนี้การเลือก Base ซึ่งเป็นบล็อกเชนเลเยอร์-2 ที่เปิดตัวโดย Coinbase ในปี 2566 ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ Base กลายเป็นเลเยอร์-2 ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของ Ethereum ด้วย มูลค่ารวมที่ถูกล็อก (TVL) เกือบ 4,000 ล้านดอลลาร์ รองรับแอปพลิเคชันตั้งแต่ DeFi ไปจนถึงเกม การทำธุรกรรมบน Base มีความเร็วสูง (ชำระในไม่ถึงวินาที) และค่าธรรมเนียมต่ำ ทำให้เหมาะกับการใช้งานในระดับสถาบัน

อย่างไรก็ตามการที่ JPMorgan เลือก Base แทนบล็อกเชนส่วนตัวอย่าง Kinexys Digital Payments (เดิมชื่อ JPM Coin) ที่ธนาคารใช้จัดการธุรกรรมกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์ต่อวัน สะท้อนถึงความมั่นใจในบล็อกเชนสาธารณะ และเป็นการส่งสัญญาณว่า ธนาคารยักษ์ใหญ่พร้อมแข่งขันในโลกคริปโตแบบเต็มตัว

ทำไม JPMorgan ถึงลุยตอนนี้?

JPMorgan ไม่ใช่หน้าใหม่ในวงการบล็อกเชน ธนาคารนี้เริ่มทดลองเทคโนโลยีบล็อกเชนตั้งแต่ปี 2560 และพัฒนา JPM Coin สำหรับการชำระเงินภายในองค์กร แต่การเปิดตัว JPMD บน Base ถือเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ สาเหตุที่ JPMorgan กล้าลงสนามคริปโตเต็มตัวอาจมาจาก

1.แรงกดดันจากสเตเบิลคอยน์ : โดยสเตเบิลคอยน์อย่าง USDT และ USDC มีมูลค่ารวมกว่า 200,000 ล้านดอลลาร์ และกำลังเขย่าระบบการเงินดั้งเดิม โดยเฉพาะสเตเบิลคอยน์ที่จ่ายดอกเบี้ย ซึ่งคุกคามโมเดลธุรกิจของธนาคาร
2.ความต้องการของลูกค้าสถาบัน : เนื่องจากสถาบันการเงินต้องการโซลูชันบล็อกเชนที่เร็ว ถูก และได้รับการควบคุม JPMD ตอบโจทย์นี้ด้วยการผสานความน่าเชื่อถือของธนาคารกับความยืดหยุ่นของบล็อกเชน

3.กระแสการยอมรับบล็อกเชน : รายงานของ JPMorgan ใน Financial Times ระบุว่า 97% ของนักลงทุนสถาบันเชื่อว่า โทเคนไนเซชัน จะปฏิวัติการเงินสมัยใหม่ การเปิดตัว JPMD จึงเป็นการยึดหัวหาดก่อนคู่แข่ง

มูลค่ารวมที่ถูกล็อคของฐาน (TVL) เพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าในช่วงปีที่ผ่านมา ที่มา:  DefiLlama
ความเสี่ยงและความท้าทายที่ JPMD ต้องเจอ

ถึงแม้ JPMD จะดูเป็นนวัตกรรมสุดล้ำ แต่ก็ไม่ใช่ไร้ความเสี่ยง เนื่องจากเป็นนวัตกรรมใหม่ เช่น

1.กฎระเบียบที่เข้มงวด : เนื่องจากการขยายการใช้ JPMD ไปยังลูกค้ากลุ่มอื่นหรือสกุลเงินอื่นต้องผ่านการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล เช่น SEC ซึ่งอาจใช้เวลานานหรือมีข้อจำกัด

2.การแข่งขันจากสเตเบิลคอยน์ : สเตเบิลคอยน์ที่มีอยู่ เช่น USDC ซึ่งออกโดย Circle และผสานกับ Coinbase มีฐานผู้ใช้ที่แข็งแกร่งและอาจท้าทายการเติบโตของ JPMD

3.ความไว้วางใจในธนาคาร : แม้ JPMD จะได้รับการควบคุม แต่ชุมชนคริปโตบางส่วนอาจไม่ไว้ใจโทเคนที่ผูกกับธนาคารยักษ์ใหญ่ เพราะขัดกับปรัชญาการกระจายอำนาจของบล็อกเชน

4.ความปลอดภัยของ Base : แม้ Base จะเป็นบล็อกเชนที่แข็งแกร่ง แต่การโจมตีทางไซเบอร์หรือช่องโหว่ในเลเยอร์-2 อาจสร้างความเสียหายต่อความน่าเชื่อถือของ JPMD

ผลกระทบต่อวงการคริปโตและการเงิน

นอกจากนี้การเปิดตัว JPMD ไม่ใช่แค่ข่าวใหญ่ของ JPMorgan แต่เป็นจุดเปลี่ยนของอุตสาหกรรมการเงินได้แก่

1.สะพานระหว่าง TradFi และ DeFi : โดย JPMD อาจเป็นตัวเชื่อมระหว่างการเงินดั้งเดิม (TradFi) และการเงินกระจายอำนาจ (DeFi) โดยนำความน่าเชื่อถือของธนาคารมาผสานกับความเร็วของบล็อกเชน

2.แรงกระเพื่อมสู่ธนาคารอื่น: หาก JPMD ประสบความสำเร็จ ธนาคารยักษ์ใหญ่อื่น ๆ เช่น Goldman Sachs หรือ Citibank อาจพัฒนาโทเคนเงินฝากของตัวเอง สร้างการแข่งขันในโลกคริปโต

3.กระแสนิยม Base หนุน on-chain เพิ่มขึ้น : การที่ JPMorgan เลือก Base จะเพิ่มความน่าเชื่อถือและดึงดูดแอปพลิเคชันใหม่ ๆ มาสู่บล็อกเชนนี้ หนุนให้ TVL และกิจกรรม on-chain พุ่งสูงขึ้น

4.สั่นคลอนอนาคตของสเตเบิลคอยน์ : JPMD อาจบีบให้ผู้ออกสเตเบิลคอยน์ต้องปรับตัว โดยเฉพาะเรื่องการจ่ายดอกเบี้ยและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ

Austin Campbell กล่าวว่า Stablecoin ที่ให้ผลตอบแทนสูงอาจสร้างความปั่นป่วนให้กับระบบธนาคารแบบดั้งเดิม ที่มา: Austin Campbell
อย่างไรก็ดีสำหรับนักลงทุนคริปโตและการเงิน การเปิดตัว JPMD เป็นทั้งโอกาสและความท้าทาย ไม่ว่าจะเป็น

1.หุ้น JPMorgan : ที่บุกวงการบล็อกเชน อาจหนุนราคาหุ้น JPMorgan ในระยะยาว แต่ระยะสั้นอาจผันผวนจากความไม่แน่นอนของโปรแกรมทดลอง

2.Base และ Coinbase: การเพิ่มกิจกรรมบน Base อาจผลักดันมูลค่าโทเคนที่เกี่ยวข้องและหุ้น Coinbase (COIN) แต่ต้องระวังความผันผวนของตลาดคริปโต

3.สเตเบิลคอยน์อื่น ๆ: นักลงทุนใน USDC หรือ USDT ควรจับตาว่า JPMD จะแย่งส่วนแบ่งตลาดได้มากแค่ไหน

4.ความเสี่ยงใหม่ที่ยังคาดเดาไม่ได้ : การลงทุนในโปรเจกต์ที่เกี่ยวข้องกับ JPMD ควรทำด้วยความระมัดระวัง เพราะผลลัพธ์ของการทดลองยังไม่แน่นอน

อย่างไรก็ดีการทดสอบโทเคนเงินฝากที่ผูกกับดอลลาร์ สู่การทดลองบน Base ของ Coinbase การเปิดตัว JPMD ของ JPMorgan ไม่ใช่แค่เพียงนวัตกรรม แต่เป็นการประกาศสงครามกับสเตเบิลคอยน์และการเงินดั้งเดิม ธนาคารยักษ์ใหญ่รายนี้กำลังวางหมากเพื่อครองโลกคริปโต หรือเพียงแค่ปรับตัวให้ทันยุคดิจิทัล? คำตอบอาจอยู่ในผลลัพธ์ของโปรแกรมทดลองนี้

ชุมชนคริปโตกำลังร้อนระอุด้วยความตื่นเต้นและข้อถกเถียง JPMD จะเป็นสะพานสู่การยอมรับบล็อกเชนในวงกว้าง หรือกลายเป็นเครื่องมือของยักษ์ใหญ่ที่บีบพื้นที่ของ DeFi? ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร โลกการเงินกำลังเปลี่ยนไป และ JPMorgan กำลังนำเกม


กำลังโหลดความคิดเห็น